ขอเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของเฟิร์สเองบ้างว่าสุขภาพจิตมันดีขึ้นยังไง ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับสมัยก่อนมันดีขึ้นมากจริงๆ เพราะเคยปรี๊ดแตกหงุดหงิดง่าย ใจร้อน เป็นมาตั้งแต่เด็ก แต่พีคสุดก็ช่วงที่กินยาลดความอ้วนห้าปีตั้งแต่ 17 เพราะร่างกายมันเหนื่อยง่าย ขี้ร้อน เหงื่อออกก็พาลใส่คนรอบตัวทันที และก็คงเหมือนกับคนไทยหลายๆคนที่วัยเด็กเราโดนตีทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ซึ่งมันส่งผลกับสุขภาพจิตทำให้เกิดอารมณ์รุนแรงก้าวร้าว ซึมเศร้า เครียดในตอนโตด้วย แต่ตอนนี้รู้เลยว่า จิตใจสงบ มีสติรู้ตัวเวลาฟุ้งซ่าน ได้ยินเสียงในหัวตัวเองชัดขึ้น อารมณ์ดีขึ้น ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น บล็อกนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าเปลี่ยนมากินแบบมังสวิรัตินี่แหละ จากแต่ก่อนไม่มีทางที่จะมานั่งเขียนอะไรแบบนี้คงจะอยากไปผับหรือหลับยังสนุกกว่า ไม่ใช่ว่าหยุดกินสัตว์แล้วทำให้อยากเขียนหนังสือ แต่สมองมันโล่ง จิตมันนิ่งขึ้น จนทำให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข มีพลังงานมากพอที่จะตัดสินใจและทำให้มันเกิดขึ้น พอได้ทำในสิ่งที่ชอบมันก็ต่อยอดให้รู้สึกดีกับตัวเอง รู้สึกสนุกพร้อมๆกับได้ให้ประโยชน์กับคนอ่านก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นด้วย

และรู้มั้ยว่าคนที่สอนโยคะและทำโยคะส่วนใหญ่เค้าก็กินมังสวิรัติ และเหตุผลหลักก็เพื่อจิตใจที่สงบขึ้น เพราะจริงๆแล้วโยคะไม่ใช่การออกกำลังให้ร่างกายแต่เป็นการฝึกให้จิตแข็งแรง มีสมาธิมากกว่าเดิม จนมันมีชื่อเรียกว่า "โยคีไดเอท" น่าสนใจที่อัจฉริยะหลายๆคนก็กินมังสวิรัติด้วยนะ ก็ไม่รู้ว่าการกินมังสวิรัติทำให้เป็นอัจฉริยะ หรือคนอัจฉริยะชอบกินมังสวิรัติ? แต่มันก็ดีที่ได้รู้ว่าสมองที่ใช้คิดอะไรยากๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่จำเป็นต้องกินสัตว์ ตรงกันข้ามการไม่กินสัตว์อาจจะมีส่วนให้ใช้สมองได้ดีก็ได้ล่ะมั้ง
 |
เหล่าอัจฉริยะที่เป็นมังสวิรัติ
|
 |
เมื่อใดที่รักตัวเองอย่างแท้จริงก็จะไม่อยากทำร้ายคนอื่น
|
ถ้าสงสัยว่าการหยุดกินเนื้อสัตว์มันจะทำให้มีความสุขได้ไงอะ ต้องหยุดกินของที่เคยชอบมากๆทั้งชีวิตเนี่ยนะ? นั่นแหละถึงได้เปรียบไว้ตั้งแต่บรรทัดแรกของบทความนี้ว่ามันก็เหมือนกับการเลือกแฟน เราอาจจะเคยคิดว่าขาดมันไม่ได้ แต่ถ้ามันแย่ต่อสุขภาพทั้งกายใจ การตัดออกจากชีวิตคือเรื่องที่ดีกว่าแน่ในระยะยาว มันอาจจะยากแต่มันคุ้มค่ามากถ้าทำได้ และทำให้เรารักและเคารพตัวเองมากขึ้นด้วย เพราะเมื่อเราเข้มแข็งพอที่จะตัดสิ่งที่แย่ออกจากชีวิต และพยามฝึกให้ตัวเองกินอาหารที่ดีจริงๆเท่านั้น มันก็จะเกิดความภูมิใจขึ้นมาว่าเรากำลังทำสิ่งที่ดีให้ตัวเอง และการรักตัวเองจะทำให้เกิดการยอมรับในตัวตนของเรามากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นจากภายในไม่ใช่แค่ภายนอก ยกตัวอย่างแต่ก่อนเฟิร์สเคยต้องเป๊ะกับการแต่งหน้าเวลาออกไปแค่ปากซอยหรือเซเว่น แต่ตอนนี้ไม่แคร์กับสายตาคนอื่นมากเท่าเก่าอีกแล้ว (แม้แต่เพื่อนๆยังทักว่าเดี๋ยวนี้ไม่แต่งหน้าจัดเหมือนเมื่อก่อนแล้วหรอ) คงเพราะรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ดีที่ให้ตัวเองอยู่นั่นคือการกินเพื่อสุขภาพที่ดีนี่แหละ เมื่อรู้สึกดีจากภายในมันก็ส่งมาถึงภายนอกด้วย และเมื่อเรายอมรับตัวเองได้ มันก็หมายถึงเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง และมันคือจุดเริ่มต้นที่ดีก่อนที่จะมีความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นด้วยนะ
ขอจบไปพร้อมๆกับขอเชียร์ถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องอาการซึมเศร้าจิตตกอยู่แล้วอยากเลิกกินเนื้อสัตว์และกินผักผลไม้ให้แทน ว่าเป็นทางเลือกที่ยังไงก็ดีต่อสุขภาพแน่ๆ อยู่แล้วไม่มีอะไรต้องเสียดายที่จะลองเลย และการทำสิ่งที่ดีกับสุขภาพก็จะทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าขึ้นด้วยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขในใจค่ะ